โปร ส่งฟรี หัวใจรักจ้าวทะเลทราย นิยายชุดทะเลทรายแห่งรัก ลำดับที่ 1 / เลอรตี หนังสือใหม่ทำมือ

ตัวอย่างบางส่วนในเล่มคะ

คำโปรย คัดมาจากบางตอนในหนังสือค่ะ

เรื่อง หัวใจรักจ้าวทะเลทะเลทราย นิยายชุดทะเลทรายแห่งรัก ลำดับที่ 1)

“เดือนประดับ” เสียงตรัสเรียกนุ่มนวล

“หันมาคุยกับผมหน่อยสิ ผมขอโทษ ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกแบบนี้”

“หม่อมฉันเป็นนักโทษของฝ่าพระบาท ไม่มีสิทธิได้รับคำขอโทษ” เสียงคนพูดสะอื้นเบาๆ “ดีแล้วที่หม่อมฉันได้รู้ฐานะของตัวเอง หม่อมฉันโง่เองที่ยอมมาที่นี่กับฝ่าพระบาท ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย หม่อมฉันถูกลักพาตัว เพราะความโง่เขลาของตัวเอง หากฝ่าพระบาทต้องการรักษาพระเกียรติอันสูงส่งของพระองค์ ทำไมต้องให้หม่อมฉันมาเกี่ยวข้องด้วย ทำไมไม่เรียกร้องจากรัฐบาล.....ฮือ ฮือ...”

หญิงสาวทำนบน้ำตาพัง ร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ โกรธเขาที่หลอกลวง โกรธตัวเองที่เกือบเผลอใจ ต่อจากนี้ไป...เธอจะไม่คิดว่าเขาเป็นคนดี ที่อยากช่วยเธอตามหาพี่ชายอีกต่อไป ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องบรรณาการ เพื่อชดใช้ความผิด ที่เธอและอัครราชไม่ได้ก่อ และเจ้าพี่กษิดิศก็เป็นเพียงเหยื่อล่อชิ้นหนึ่งของเกมนี้เท่านั้น

โธ่....ทำไมเรื่องถึงได้กลับตาลปัตรเช่นนี้…

“เจ้าเดือน ทำไมคุณต้องคิดมากด้วย พอเถอะ ผมรับรองว่าจะตามหาพี่ชายคุณให้เจอ แล้วส่งเขากลับประเทศไทย โดยไม่ให้เขาต้องรับโทษของบาราคัท พอใจหรือยัง”

“แล้วที่ตรัสว่า หม่อมฉันเป็นเครื่องบรรณาการ ชดใช้ความผิดล่ะ หมายความว่ายังไงเพคะ”

“ผมต้องการให้คุณมาอยู่ที่นี่กับผม ก็แค่นั้น”

“ทำไมหม่อมฉันต้องอยู่ที่นี่ ในเมื่อรัฐบาลก็ต้องส่งเครื่องบรรณาการให้ตามที่ทรงต้องการได้อยู่แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ หม่อมฉันจะกลับ”

“ก็ได้ ถ้างั้นผมจะสั่งจับตายทหารไทยที่ลักลอบเข้าบาราคัททุกคน แล้วจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย เลือกเอาแล้วกัน”

“แต่ฝ่าพระบาทบอกว่าเจรจากับรัฐบาลไทยแล้ว ว่าจะช่วยไงเพคะ” หญิงสาวตกใจกับคำตอบโต้นั้น

“คุณคิดว่าผมสนเรอะ?”

ชีคหนุ่มพยายามระงับอารมณ์ที่จะตอบโต้ เขาไม่กล้าบอกเหตุผลที่แท้จริง กลัวว่าหญิงสาวจะไม่เชื่อ จึงต้องอ้างเรื่องเครื่องบรรณาการบ้าบอนั่น แล้วดูสิเดือนประดับเอาแต่เสียใจร้องไห้

เดือนประดับนิ่งอึ้งไปกับคำตอบของเขา ท่านชีคใจร้ายที่สุด พระองค์เห็นเธอเป็นอะไร? ถึงได้คิดทำตามใจชอบอย่างนี้ ใบหน้าสวยแม้จะซีดเซียวเชิดขึ้นอย่างทระนง

“ฝ่าพระบาทกำลังดูหมิ่นหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ต้องการเป็นนางในฮาเร็มของฝ่าพระบาท หม่อมฉันขอตายเสียดีกว่าที่จะยอมเป็นนางในของพระองค์”

“ทำไมล่ะ? การเป็นนางในจะทำให้คุณสุขสบายไปตลอดชีวิต” เขาโต้กลับอย่างหงุดหงิด

“ไม่มีฝ่าพระบาท หม่อมฉันก็สุขสบายดีอยู่แล้ว”

“แต่อะไรที่ผมอยากได้ ผมก็ต้องได้” ชีคหนุ่มประกาศก้อง แล้วพูดตัดบทว่า “พอที เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก”

“ถ้างั้นฝ่าพระบาทก็รับทราบไว้ด้วย แม้ร่างกายของหม่อมฉันจะต้องอยู่ที่นี่ตามพระบัญชา แต่หัวใจและวิญญาณของหม่อมฉันจะไม่มีวันอยู่ที่นี่

มันจะกลับไปอยู่ที่บ้าน แผ่นดินเกิดของหม่อมฉัน....”

เดือนประดับพูดจบก็พลิกตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง ปล่อยให้ทำนบน้ำตาพังลงมาอีก

ชีคอาร์เมลนิ่งฟังคำตัดพ้อต่อว่าของเดือนประดับอย่างร้าวรานใจ การเริ่มต้นชีวิตคู่ของเขากับเดือนประดับ หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คาดหวังไว้เสียแล้ว แต่คนอย่างเขา...ไม่ละความพยายามง่ายๆ หรอก

“คุณพักผ่อนเถอะ ไว้สงบจิตใจได้แล้ว เราค่อยคุยกัน”

ชีคหนุ่มตรัสเสียงเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ แล้วหันมากำชับนางข้าหลวงให้คอยเฝ้าดูแลเดือนประดับอย่างใกล้ชิด ก่อนก้าวออกไปจากห้อง

เดือนประดับร้องไห้จนเหนื่อย อีกทั้งฤทธิ์ยาที่หมอหลวงฉีดให้เมื่อก่อนหน้านี้ออกฤทธิ์ ทำให้เธอนอนหลับไปอีกครั้ง

และในระหว่างนิทราที่ยาวนานนั้น หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่า มีใครบางคนเดินเข้าเดินออก คอยเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วง จนไม่เป็นอันทำอะไร…

ชีคอาร์เมลนึกเคืองตัวเองเหมือนกัน หลังจากปะทะคารมกับเดือนประดับแล้ว เขาก็ตรงไปที่ห้องทำงาน คิดว่าจะอ่านเอกสารที่วางรออยู่บนโต๊ะ แต่เขากลับไม่มีสมาธิในการอ่านเอาเสียเลย จามาลกับฮาซิม ซึ่งนั่งทำงานอยู่ภายในห้องทำงานด้วย เห็นทีท่าขององค์เหนือหัวแล้ว ทั้งสองพากันยิ้มและส่ายหน้าให้กัน

“กระหม่อมคิดว่า ฝ่าพระบาทน่าจะเอาแฟ้มพวกนี้ ไปนั่งอ่านที่ห้องบรรทมเลยดีไหม จะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมา พวกกระหม่อมเวียนหัว...” ฮาซิมพูดขึ้นขำๆ

“ให้ตายเถอะ พวกนาย เดี๋ยวเราสั่งขังเสียเลย”

ชีคหนุ่มฉุนที่องครักษ์คนสนิทรู้ทันความคิดของพระองค์

“ฝ่าพระบาท ข่าวการมาของเจ้านางเดือนประดับ ตอนนี้ลือกันไปทั่ววังหลวงแล้ว ฝ่าพระบาทจะอธิบายกับทุกคนว่ายังไงดี พะยะค่ะ”

จามาลผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบหน่วยข่าวกรองกราบทูลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ประกาศออกไปว่าเจ้านางจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นชีคพระชายา ส่วนพิธีอภิเษกจะกำหนดขึ้นหลังจากรับเจ้านางเข้าศาสนาของเราแล้ว”

“แล้วเจ้านางจะยอมเข้าพิธีหรือกระหม่อม ในเมื่อ....”

“เราจะหาวิธีทำให้เจ้านางยินยอมจนได้ คอยดูก็แล้วกัน” ชีคหนุ่มพูดแทรกขึ้นมาอย่างมั่นใจ

“พวกกระหม่อมจะเอาใจช่วยฝ่าพระบาท”

สององครักษ์ลุกขึ้นยืนโค้งคำนับให้นายเหนือหัว ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็กอย่างล้อเลียน

นั่นสินะ เขาต้องหาทางให้เดือนประดับ ยอมเข้าพิธีแต่งงานกับเขาด้วยความเต็มใจให้ได้ มันต้องมีวิธีสิ เขารู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบการบังคับ ดังนั้นเขาต้องหาเหตุผลมาหว่านล้อม…

ในเมื่อหญิงสาวคิดว่าถูกเขาหลอกให้มาเป็นนางในฮาเร็ม เขาก็จะใช้เหตุผลนี้แหละต่อรอง....

ฮึ...ช่างพูดออกมาได้ ว่าเขาจะได้แต่ร่างกาย ไม่มีวันได้หัวใจของเธอ... เขาเป็นคนโลภเสียด้วย เขาต้องได้ทั้งร่างกายและหัวใจของเดือนประดับมาครอง!