รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือ

รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือ
รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือรักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือรักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือ
รหัสสินค้า SKU-00644
หมวดหมู่ # หนังสือทำมือ สถานะ หมดแล้ว
ราคา 150.00 บาท
น้ำหนัก 300 กรัม
สภาพหนังสือ / หมวด หนังสือใหม่ วรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่
ลงสินค้า 8 ก.พ. 2556
อัพเดทล่าสุด 28 ก.พ. 2557
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ / bigger ใหม่ทำมือ ปก 150 บาท

รวม 2 เรื่องสั้นสุดประทับใจจาก bigger





ตัวอย่าง .....

บทที่ 1.

ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน แต่บ้านไม้ชั้นเดียวหลังกะทัดรัด ยังคงมีแสงไฟสว่างลอดออกมาจากกระจกเหนือหน้าต่างของตัวบ้าน และภาพที่เห็นนั้นทำให้ทหารหลายคน ซึ่งกระโดดลงมาจากรถ ต้องยกมือแตะริมฝีปากกันจ้าระหวั่น แล้วพึมพำอย่างเกรงใจชายหนุ่มที่หันมามองด้วยสายตาขุ่นคลัก

“ขอโทษครับท่าน ผมนึกว่าคุณเฟื่องหลับไปแล้วเลยไม่ทันระวัง”

“พวกมึงชอบเห่ากลางดึกประจำ ถึงไม่ใช่เฟื่องก็น่าจะต้องเกรงใจคนอื่นด้วย”

“คร้าบ พวกเราไปนะครับท่าน วันหลังจะมาส่งท่านแบบเงียบกริบเลยครับ”

ถึงลูกน้องเขาจะพูดเหมือนกระซิบ แต่เมื่อรถยีเอ็มซีออกตัว ภควันก็ต่างส่ายหน้าอย่างเอือมระอา...ผ่าเถอะ! รถเก่าครำคร่าและเครื่องหนักขนาดนั้น ป่านนี้เมียเขาไม่สะดุ้งตื่นขวัญเสียเพราะเสียงรถที่แล่นจากหน้าบ้านไปแล้ว หรือ นายทหารหนุ่มคิดไม่ผิด เพราะเขายังไม่ทันหมุนตัวกลับด้วยซ้ำ เสียงเปิดประตูบ้านก็ดังขึ้นพร้อมๆกับคำทักของเธอ

“อ้าว! กลับกันแล้วหรือคะ เฟื่องนึกว่าจะแวะทานน้ำหรือดื่มกาแฟก่อนเสียอีก”

“ผมไล่ไปหมดแล้ว ไม่อยากให้อยู่กวนคุณ”

เขาตอบเสียงห้าวแล้วกดอารมณ์บางอย่างที่แล่นวาบ ขณะปล่อยให้ภรรยาสาวกอดแขนไปรอบเอวเขาแล้วเธอก็ซบหน้านิ่งอยู่กับอกกว้าง อยู่เป็นครู่...ร่วมเดือนมาแล้วที่เฟื่องรัตน์ จะทำแบบนี้เป็นประจำทุกครั้งเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน และการกระทำของเธอนั้น นอกจากจะเพิ่มความสนิทสนมระหว่างคู่แต่งงานใหม่ มันยังสร้างความอบอุ่นให้กับหญิงสาวจนเฟื่องรัตน์ต้องลอบถอนใจแผ่วยาว

การนั่งรออยู่คนเดียว ในสถานที่ซึ่งไม่ใช่บ้านเกิดของเธอ มันก็ต้องใช้เวลาทำใจอยู่แล้ว ยิ่งสามีกลับบ้านจนดึกดื่น และถึงรู้ว่าเขาไปทำงานแต่เธอก็อดกังวลปนเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวกอดเขาจนคิดว่าพออุ่นใจและคลายกังวลลงบ้าง เธอจึงเป็นฝ่ายขืนตัวออกห่าง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วหวิว

“นั่งพักก่อนนะคะเดี๋ยวเฟื่องไปเอาน้ำให้”

“ขอบใจมาก”เขาตอบเสียงนุ่มแล้วมองตามร่างบางๆ ที่เดินหายไปครู่เดียว แล้วกลับมาอีกครั้ง

“น้ำเย็นๆ ค่ะ...วันนี้ไปที่ไหนมาคะ ทำไมผู้พันกลับดึกจัง”

น้ำเสียงยังเจือง่วงงุนของหญิงสาวขณะที่มือเล็กๆ ยื่นแก้วน้ำมาให้ ทำให้ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในชุดลายพรางของทหารต้องอมยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยถาม แทนที่เขาจะตอบคำถามของเธอ

“ลุกขึ้นมาทำไม หรือลูกน้องผมเสียงดังจนคุณต้องตื่น”

“เสียงไม่ดังหรอกค่ะ แต่เฟื่องสะดุ้งตื่นเองต่างหาก คือ...เฟื่องเผลอหลับไปน่ะค่ะ ไม่อยากหลับหรอกนะคะ ความจริงนั่งรอผู้พันมากกว่า แต่หลับไปได้ยังไงไม่รู้”

“วันหลังอย่านั่งรออีกเลย ผมจะกลับกี่โมงก็ไม่รู้ ไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณ”

ชายหนุ่มที่พูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เจือความห่วงใย ทำให้หญิงสาวต้องมองตามร่างของผู้ชายที่อยู่ในชุดลายพรางของทหารซึ่งเดิน เลี่ยงไปมุมห้อง ก่อนเขาจะถอดเสื้อแขนยาวตัวนอกออกจนเหลือแต่เสื้อยืดสีเขียวเข้มด้าน ใน...เฟื่องรัตน์ค่อยๆ ปรับสายตาที่พร่ามัว เนื่องจากเพิ่งตื่นใหม่ๆ ในยามดึก เพื่อจับภาพของคนที่ได้ชื่อว่าสามีของตัวเองทุกจังหวะที่เขาก้าวเดินหรือทำ อะไรก็ตาม

หญิงสาวยังยืนมองเขาอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ความคิดของเธอ ประหวัดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน...พันโทภควัน กันทลัส นายทหารหนุ่มที่ได้ชื่อว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อม เพราะนอกจากเขาจะมียศตำแหน่งที่เหมาะสม ภควันยังนับได้ว่าเป็นชายหนุ่มซึ่งหน้าตาดีมากที่สุดคนหนึ่ง จนน่าจะเป็นที่ต้องการของผู้หญิงจำนวนมาก แต่เขากลับมาอยู่ชายแดน หนำซ้ำยังตกลงแต่งงานกับเธอด้วยสาเหตุที่เฟื่องรัตน์ยังไม่แน่ใจมาจนบัดนี้

“ไปนอนเถอะ เดี๋ยวผมอาบน้ำเรียบร้อยก็จะเข้านอนเหมือนกัน”

“ผู้พันทานอะไรมาหรือยังคะ ให้เฟื่องหาให้มั้ย”

“อย่าเลย! รบกวนคุณเปล่าๆ แค่งานของคุณก็เหนื่อยจะแย่”

“เฟื่องไม่เหนื่อยหรอกค่ะ อาจจะอยู่ตัวแล้วมังคะ ให้เฟื่องหาอะไรง่ายๆให้ทานนะ”

รอยยิ้มห่วงใยและจริงใจของเธอ ทำให้เขาต้องผงกศีรษะรับก่อนชายหนุ่มจะตอบเสียงแผ่ว

“ก็ได้”

“รอสักครู่นะคะ ผู้พันอาบน้ำเสร็จคงได้ทานพอดี”

เขาพยักหน้ารับเมื่อเห็นรอยยิ้มสดชื่นขึ้นมาบ้างของเธอ และแค่ลับร่างบอบบางที่เดินหายไปทางห้องครัวเล็กๆ ของบ้านหลังกะทัดรัดเท่านั้น พันโทภควันก็ต้องถอนหายใจยืดยาว ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่เหมือนหมดแรง...บ้าฉิบ! ให้เขาเจอศัตรูที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีนรก มันคงจะดีกว่าได้เห็นหน้าหวานๆ และน้ำเสียงนุ่มนวลของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาคนนี้

ในขณะที่หูเขาได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากในครัว นายทหารหนุ่มซึ่งนั่งนิ่งแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ก็ตัดสินใจลุกขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินหายไปในห้องน้ำภายในห้องนอนของตัว เอง...ช่วงที่น้ำอุ่นจัดไหลผ่านเรือนร่าง เรื่องราวต่างๆ เมื่อสามเดือนก่อนก็แวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง...เฟื่องรัตน์ ผดุงวัฒน์ หญิงสาวที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหมาดๆ และน่าจะเพราะไฟที่แรงจัด ทำให้เธอสมัครเข้ามาเป็นอาสาพัฒนาในดินแดนที่เป็นตะเข็บชายแดนแบบนี้

ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ ก็คงเป็นงานเปิดศาลาชุมชนของหมู่บ้าน และใบหน้าที่เปื้อนเปรอะไปด้วยฝุ่นผงของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยืนยิ้มสว่างช่วง ที่เขาเป็นคนกระตุกเชือกเพื่อเปิดแผ่นป้ายศาลาเอนกประสงค์ ทำให้ภควันต้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ...มือขาวบางขนาดนั้น และแขนเรียวเล็กแค่นี้ เจ้าหล่อนยังสามารถถือถังบรรจุหินดินทรายได้ยังไง

จากวันนั้นเขาก็ยังเห็นเธอบ่อยๆ ตามงานพัฒนาในที่ต่างๆ ของชุมชน ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าเธอน่าจะกลับเมืองกรุงหลังงานเสร็จ แต่คำตอบที่ได้รับจากการฟังคำพูดของลูกน้อง ทำให้ภควันต้องขมวดคิ้วมุ่นในวันหนึ่ง

“ได้ข่าวว่าเธออกหักมังครับ เลยคิดจะอยู่ยาวที่นี่”

“อกหัก!”

“ครับท่าน แฟนของเธอรู้สึกว่าจะทำงานร่วมกันที่นี่ด้วย”

“มาทำงานพัฒนาด้วยกันรึ พวกมึงเคยเห็นมั้ย”

“ไม่เคยเห็นครับ แต่ผมได้ข่าวมาอีกที พอดีได้ยินชาวบ้านเขาคุยกันนะครับ”

“ข่าวลืองั้นสิ”

เขาพึมพำแล้วทำตาขุ่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามย้อนกลับจากลูกน้องที่กำลังหัวเราะร่าอย่างไม่รู้ตัวว่าขัดหูขวางตาของเจ้านาย

“ท่านถามถึงเธอทำไมครับ หรือว่าสนใจจะช่วยดามอกให้”

“มึงไปไกลๆตีนกูเลยไป ถามแค่นี้ดันคิดไปโน่น”

ลูกน้องเขาแผ่นแผล็วไปจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงกระชากห้วนๆ แต่ไอ้ตัวดีไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะหลังจากวันที่เขาเอ่ยปากถามถึงเฟื่องรัตน์ไม่นานเท่าไหร่ ข่าวว่าเขาสนใจในตัวเธอก็กระจายไปทั่วทั้งค่าย รวมไปถึงน่าจะกระจายไปทั้งหมู่บ้าน

สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เฟื่องรัตน์แต่งงานกับเขา เพราะแค่ข่าวลือและคำหยอกล้อเพื่อจับคู่ ดูจะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นหวั่นไหวแม้แต่น้อย แต่สาเหตุที่เฟื่องรัตน์ยอมตกปากรับคำแต่งงาน น่าจะมาจากสาเหตุสำคัญซึ่งเขาและเธอดันจับพลัดจับผลูได้อยู่กันข้ามคืนเพราะ เหตุจำเป็นบางอย่างต่างหาก

“ผู้พันคะเสร็จแล้วค่ะ”

เสียงพูดหวานๆ ของเธอดึงภวังค์ความคิดของชายหนุ่มให้กลับเข้าสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง ภควันรีบออกจากห้องของตนเองก่อนจะเดินตรงไปยังห้องครัวที่อยู่ติดๆ กับห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว

“ผมทำให้คุณยุ่งหรือเปล่า”

เขาเอ่ยถามแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงกันข้ามกับภรรยาที่เหมือนจะมีดวงหน้าระ เรื่อขึ้นกว่าเดิม...เฟื่องรัตน์หน้าร้อนจริงๆ ตั้งแต่เห็นสามีหนุ่มซึ่งเดินออกมาจากห้อง และเขาอยู่ในสภาพท่อนบนโล่งเปลือยเพราะภควันสวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว

“ไม่หรอกค่ะ เฟื่องต่างหากละคะที่เป็นตัวยุ่งสำหรับผู้พัน แต่ถ้าเฟื่องได้ดูแลผู้พันก็คงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ดังนั้นวันหลังอย่าห้ามเฟื่องให้นั่งรอผู้พันเลยนะคะ”เธอพูดยิ้มๆ ก่อนยื่นช้อนส่งให้กับเขา

“เฟื่องกลัวว่าจะหนักท้องเกินไปสำหรับมื้อดึก เลยทำข้าวต้มทรงเครื่องให้น่ะค่ะ ทานสิคะกำลังร้อนๆ”

“ขอบใจมาก แต่ที่ผมถามเพราะเป็นห่วงไม่และอยากให้คุณลำบาก”

คำตอบเรียบง่ายแต่แฝงความเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้หญิงสาวต้องลอบถอนใจแผ่วขณะนั่งมองชายหนุ่มที่เริ่มทานอาหาร...นับวัน เธอก็อยากอยู่ใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ และบางครั้งเฟื่องรัตน์เองก็ต้องตกใจกับความคิดพิเรนทร์ที่นึกไปถึงการได้ นอนร่วมห้องกับเขา

“อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ คุณผอมลงมากเลยนะ”

“น่าเกลียดมั้ยคะ ผู้พันคิดว่าเฟื่องผอมมากเกินไปหรือเปล่า”เธอถามเสียงสูงเหมือนวิตก

“ผอม...แต่ไม่น่าเกลียด”

เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ก่อนจะตักอาหารเข้าปากแล้วหลุบตาต่ำเพื่อปิดบังความรู้สึกบางอย่างของตน เอง...เฟื่องรัตน์อาจจะผอมแต่เขาก็รู้ด้วยสายตาของผู้ชายว่า ภรรยาเขามีในสิ่งที่ควรมีและขาดในสิ่งที่ควรขาด...

“เฟื่องก็ทานเยอะนะคะแต่อาจทำงานหนักเหมือนผู้พันว่า เลยทำให้ผอมลงบ้างนิดหน่อย” ท้ายเสียงอุบอิบไม่ยอมรับ แต่แล้วเฟื่องรัตน์ก็พูดตามมาด้วยใบหน้าตื่นเต้นเหมือนนึกได้ “แต่ถ้าผู้พันไม่ชอบเฟื่องจะดูแลตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ”

“ผมอาจจะบอกว่าคุณผอม แต่ไม่ได้หมายความว่าผมรังเกียจ”

“คือ...เอ่อ...เฟื่องรู้ค่ะว่าผู้พันไม่รังเกียจ ไม่อย่างนั้นคงไม่แต่งงานกับเฟื่อง”

คำพูดอึกอักและท่าทางประหม่าของเธอ ทำให้ชายหนุ่มต้องวางช้อนในมือก่อนจะจ้อง

“คุณอาจจะแต่งงานกับผมเพราะเหตุจำเป็น แต่ผมขอบอกให้รู้ตรงนี้ว่า ถ้าผมตกลงแต่งงานกับคุณแล้ว ผมจะอยู่กับคุณจนตลอดชีวิต”

“เฟื่องพอเข้าใจค่ะ แต่ว่า....คือ...เฟื่อง”

เฟื่องรัตน์ตอบรับแล้วอึกอักขึ้นมาอีกหน เพราะหญิงสาวไม่กล้าพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองแม้แต่น้อย...ก็เธออายเขา นี่! จะให้เธอออกปากไปเหรอว่า เธอไม่ได้จำใจอยู่กับเขาแม้แต่น้อย แล้วนับวันเธอก็แทบไม่เป็นอันทำงานเพราะหัวใจคอยร่ำร้องคิดถึงแต่ผู้ชายคน นี้อยู่ทุกวินาทีอย่างนั้นหรือ และถ้าบอกเขาไปแล้ว ภควันจะคิดอย่างไร ในเมื่อตั้งแต่วันแต่งงานจนสามเดือนเข้าไปแล้ว เขายังไม่เคยเอ่ยปากว่ารักเธอสักที

“คุณไปนอนเถอะ ขอบคุณที่อุตส่าห์ตื่นกลางดึกมาทำอาหารให้”

“ค่ะ”

เธอรับคำเสียงแผ่วแล้วลุกขึ้นอย่างอิดออด เฟื่องรัตน์อยากจะอยู่พูดคุยกับเขาอีกสักนิด แต่ในเมื่อชายหนุ่มพูดเหมือนไล่ เธอจึงได้แต่ถอนอกถอนใจเท่านั้น ท่าทางกระอักกระอ่วนใจของหญิงสาวราวจะมีเรื่องอึดอัดในใจ ทำให้ชายหนุ่มต้องเรียกด้วยเสียงอ่อนโยน

“เฟื่อง”

“ขา”หญิงสาวหันขวับอย่างดีใจเมื่อได้ยินเขาเรียก

“ก่อนออกจากบ้าน ผมตั้งใจจะซื้อของสวยๆมาฝากคุณ แต่ว่าวันนี้ผมเข้าป่า แล้วแถวนั้นก็ไม่มีของขาย เลยได้ไอ้นี่มาฝาก”

ดอกไม้ช่องามถูกยื่นมาให้ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะรับ ชายหนุ่มก็เด็ดดอกเล็กๆสีชมพูหวานเอาไปหนึ่งดอก

“กล้วยไม้หรือคะสวยจัง”

เธอถามอย่างตื่นเต้นและเต็มตื้น ขณะที่เฟื่องรัตน์กำก้านแข็ง ซึ่งประดับด้วยดอกเรียงอัดแน่นเป็นพวงไว้ในมือ เธอก็ต้องก้มหน้าลงต่ำอย่างขัดเขินเพราะแก้มร้อนจัด...ดอกไม้ในมือของภควัน ถูกทัดเข้ากับซอกหูของเธอ

“เขาเรียกกันว่าเอื้อง ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเอื้องอะไร แต่เห็นดอกมันแล้วทำให้ผมนึกถึงคุณ”

“ยังไงคะ หรือว่าหน้าเฟื่องเหมือนดอกกล้วยไม้”

“เปล่า สีของมันต่างหากที่ทำให้ผมนึกถึงแก้มของคุณเวลาอาย”

คำตอบตรงๆ ของเขา แต่เมื่อหลุดออกมาจากปากของผู้ชายหน้าเข้ม และกำลังมองเธอด้วยดวงตาพราวระยิบ เฟื่องรัตน์ก็อึ้งแล้วหน้าร้อนซู่อย่างปัจจุบันทันด่วน...หญิงสาวกลั้นหายใจ อย่างไม่รู้ตัว เมื่อใบหน้าคมนั้นก้มใกล้ แค่ปากเรียวหนาแตะแผ่วบนกลีบดอกไม้ที่ข้างหู ลมหายใจร้อนจัดของเขาก็กระทบกับซอกแก้ม จนเฟื่องรัตน์อยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด

“ความจริงอยากดึงมาฝากทั้งกอ แต่เพราะเสียดายเลยเอามาแค่ช่อเดียว คุณไม่โกรธใช่มั้ย”

“ไม่ค่ะ”

เธอตอบทั้งสั้นและเบาหวิวแล้วก้มหน้าต่ำยิ่งขึ้นจนคางแทบจรดอก คุณพระคุณเจ้า! ดวงตาเข้มสีสนิมเหล็กที่ทอแววหวานฉ่ำ มันทำให้เธอไม่อาจต่อสายตากับเขาได้

“ฝันดีนะเฟื่อง”

มือกร้านที่แตะแผ่วบนแก้มเธอ ก่อนร่างสูงๆ นั้นจะเดินแยกไปทางห้องของเขา ทำให้เฟื่องรัตน์ต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับหัวใจที่เต้นระรัวให้เข้า ที่...เธอแต่งงานกับพันโทภควันมาสามเดือนแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่เคยร่วมห้องหรือร่วมเตียงสักที และตอนนี้เฟื่องรัตน์เพิ่งจะรู้ตัวว่า เธอกำลังหลงรักสามีของตนเองจนแทบจะคลั่งตาย...

 

หน้าที่เข้าชม948,903 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด496,570 ครั้ง
เปิดร้าน23 มี.ค. 2555
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

ติดต่อสอบถาม

หมวดหมู่สินค้า

#หนังสือใหม่รวมสนพ.พร้อมส่ง [408]

เช็ครหัสพัสดุ EMS 






เช็ครหัสจาก เลขที่ใบสั่งซื้อ

  • ค้นหา
*ใส่ เบอร์มือถือ หรือ email ที่ใช้ในการสั่งซื้อ



ทะเบียนพาณิชย์ร้านค้า

พูดคุย-สอบถาม